Preposition
http://www.slideshare.net/newtonj/prepositions-11353214
Prepositions
-preposition (เพร็พโพะซิฃั่น) แปลว่า "คำบุพบท หรือ คำบุรพบท" คือคำที่ใช้เชื่อมต่อนามกับนาม นามกับคุณศัพท์ นามกับวลี นามกับอนุประโยค
หน้าที่ของ Preposition
-preposition คือคำบุรพบท มีหน้าที่การเชื่อมในประโยคได้ 10 อย่างดังนี้
1.ใช้เชื่อมต่อนามกับนาม
2.ใช้เชื่อมต่อกิริยากับนาม
3.ใช้เชื่อมต่อกิริยากับสรรพนาม
4.ใช้เชื่อมต่อสรรพนามกับนาม
5.ใช้เชื่อมต่อนามกับสรรพนาม
6.ใช้เชื่อมต่อนามและสรรพนามกับวลี
7.ใช้เชื่อมต่อนามกับอนุประโยค
8.ใช้เชื่อมต่อนามกับกรรม
จงคลิกลิ้งค์ข้างล่างนี้ขึ้นมาศึกษาประกอบ
http://www.slideshare.net/newtonj/prepositions-11353214
Preposition ที่ใช้บ่อย
-preposition ตือคำบุรพบทที่ใช้บ่อยที่สุดมี 73 ตัว คือ:-
1.about (อะเบาทฺ) =ประมาณ, กะ, ราวๆ, เกี่ยวกับ
2.above (อะบัฟว์) =เหนือ, ข้างบน
3.aboard (อะบอร์ด) =บนรถ, บนรถยนต์, บนรถไฟ, บนเครื่องบิน, บนเรือ
4.across (อะครอส) =ข้าม, ผ่าน, ขวาง, พาด
5.according to (อะคอร์ดิ่ง ทู) =เป็นไปตาม
6.after (อัฟเทอะ) =หลังจาก, ภายหลัง
7.against (อะเกนสทฺ) =ต่อ, ต่อต้าน, เพื่อ, ตรงกันข้าม, ติดกับ, เทียบกับ
8.a long (อะ ลอง) =ตาม, เป็นเวลานาน
9.a long side of (อะ ลอง ไซด์ อ๊อฟ) =ใกล้กับ
10.a long with (อะ ลอง วิธ) =ไปด้วยกันกับ
11.amid (อะมิด) =ท่ามกลาง, ระหว่าง
12.amidst (อะมิดสทฺ) =ท่ามกลาง, ระหว่าง
13.among (อะมอง) =ระหว่าง
14.among by (อะลองบาย) =โดยในหมู่
15.apart from (อะพาร์ท ฟรอม) =ห่างออกไป
16.around (อะเรานดฺ) =รอบๆ
17.as (แอ๊ส) =เช่น
18.as against (แอ๊ส อะเกนสทฺ) =ต่อ, ขัดขวาง
19.as compared with (แอ๊ส คัมแพรดฺ วิธ) =เปรียบเทียบกับ
20.as for (แอ๊ส ฟอร์) =เพื่อ
21.aside from (อะไซดฺ ฟรอม) =ห่างออกไปจาก
22.as to (แอ๊ส ทู) =เพื่อ
23.at (แอ๊ท) =ที่่, ณ, ตอน, อย่าง, เมื่อ, โดย, ด้วย, ตรง, ถึง, มายัง, พอ, ในการ, ยุ่งอยู่กับ
24.below (บีโล) =ด้านล่าง
25.beneath (บีนีธ) =ใต้, ข้างใต้, ภายใต้, ต่ำกว่า
26.beside (บีไซดฺ) =ข้าง, ด้านข้าง
27.between (บีทะวีน) =ระหว่าง
28.beyond (บีออนดฺ) =เกิน,เหลือ
29.but (บัท) =แต่
30.because of (บีคอส อ๊อฟ) =เพราะว่า
31.before (บีฟอร์) =ก่อน
32.behind (บีไฮนดฺ) =ข้างหลัง
33.concerning (คอนเซอนิ่ง) =เกี่ยวกับ
34.during (ดูริ่ง) =ในระหว่าง
35.despite (ดิสไพทฺ) =แม้จะมี
36.down (ดาวน์) =ลง ต่ำ
37.except (เอคซ์เซพทฺ) =ยกเว้น
38.excepting (เอคซ์เซพทิ่ง) =ยอมรับ
39.for (ฟอร์) =สำหรับ เพื่อ ให้ ต่อ แก่ ถึง
40.from (ฟรอม) =จาก แต่ ตั้งแต่
41.in (อิน) =ใน ช้างใน ภายใน
42.into (อินทู) =เข้าไป เข้าไปข้างใน
43.inside (อินไซด์) =ภายใน ช้างใน
44.in front of (อิน ฟรอนทฺ อ๊อฟ) =ข้างหน้า
45.in spite of (อิน สไพท์ อ๊อฟ) =ทั้งๆที่มี แม้
46 instead of (อิน สทีด อ๊อฟ) =แทน แทนที่
47.like (ไลคฺ) =ชอบ
48.near (เนียร์) =ใกล้
49.of (อ๊อฟ) =ของ แห่ง ด้วย โดย
50.off (อ๊อฟ์ฟ) =ปิด พ้น ไกลออกไป ห่างออกไป หมดสิ้น
51.on (ออน) =บน ที่ ต่อ ตาม ไปทาง
52.onto (ออนทู) =ไปยัง ถึง
53.out (เอาทฺ) =ออก
54.outside (เอาทฺไซด์) =ข้างนอก ภายนอก
55.over (โอเวอะ) =เกิน มากกว่า เหนือ
56.past (พาสทฺ) =ผ่าน เลย ล่วง คล้อย
57.regarding (รีการ์ดดิ่ง) =เกี่ยวกับ
58.since (ซินซฺ) =ตั้งแต่
59.to (ทู) =ต่อ สู่ ยัง แก่ ไปยัง
60.toward (ทูวาร์ด) =ไปทาง ไปต่อ สู่
61.through (ทรู) =ตลอด กระทั่ง
62.throughout (ทรูเอาทฺ) =ตลอด ชั่วนาน
63.until (อันทิล) =กระทั่ง จนกระทั่ง
64.under (อันเดอร์) =ใต้ ภายใต้
65.underneath (อันเดอร์นีธ) =ภายใต้
66.up (อั๊พ) =ขึ้น
- He climbed up the ladder.
-She had to walk her bike up the hill.
-The bathroom is up the stairs.
67.upon (อั๊พพอน) =เมื่อ ณ ในขณะ ต่อไป เรื่อยไป
68.up to (อั๊พ ทู) =จนถึง สุดแต่
69.with (วิธ) =ด้วย โดย กับ ต่อ พร้อมด้วย
70.within (วิธอิน) =ภายใน
71.without (วิธเอาทฺ) =ไม่มี ปราศจาก
72.with regard to (วิธ รีการ์ด ทู) =ในเรื่องเกี่ยวกับ
73.with respect to (วิธ รีสะเพคทฺ ทู) = ในส่วน
ใช้เชื่อมต่อนามกับนาม
-ใช้เชื่อมต่อนามกับนาม เช่น:-
-Bangkok of Thailand =กรุงเทพฯเมืองหลวงของประเทศไทย
-Fruits about ten results =ผลไม้ประมาณ 10 ผล
-Bird on tree =นกบนต้นไม้
-Fish in water =ปลาในน้ำ
-Buffalo into stall =ควายเข้าคอก
-ประโยคตัวอย่างเช่น:-
-Thanisa is on upstairs.
=ธนิสาอยู่ชั้นบน.
-I will wait you until you will come back.
=ผมจะรอคุณจนกว่าคุณจะกลับมา.
-She stands in front of you.
=หล่อนยืนอยู่ข้างหน้าของคุณ.
ใช้เชื่อมต่อกิริยากับนาม
-ใช้เชื่อมต่อกิริยากับนาม เช่น:-
-Wannipa is in the room.
=วรรณิภาอยู่ในห้องนั้น.
-Birds fly on sky.
=นกบินอยู่บนท้องฟ้า.
-Fishes live in water.
=ปลาอาศัยอยู่ในน้ำ.
ใช้เชื่อมต่อกิริยากับสรรพนาม
-ใช้เชื่อมต่อกิริยากับสรรพนาม เช่น:-
-She goes to Bangsan with me.
=หล่อนไปบางแสนกับผม.
-They come with her.
=พวกเขามากับเธอ.
-My mother live near them.
=แม่ของฉันอยู่ใกล้พวกเขา.
ใช้เชื่อมต่อสรรพนามกับนาม
-ใช้เชื่อมต่อสรรพนามกับนาม เช่น:-
-I with Maliwan go to Market.
=ผมกับมลิวัลย์ไปตลาด.
-We outside house are happy good.
=พวกเราอยู่นอกบ้านสบายใจดี.
-You from house were a long time.
=คุณจากบ้านเป็นเวลานาน.
ใช้เชื่อมต่อนามกับสรรพนาม
-ใช้เชื่อมต่อนามกับสรรพนาม เช่น:-
-Thanisa with me will use live together.
=ธนิศากับผมจะใช้ชีวิตร่วมกัน.
-Chanisa from us was time twenty years.
=ชนิสาจากพวกเราเป็นเวลา 20 ปี.
-The tablet for you is in the box.
-แท็บเล็ตสำหรับคุณอยู่ในกล่อง.
ใช้เชื่อมต่อนามและสรรพนามกับวลี
-ใช้เชื่อมต่อนามและสรรพนามกับวลี เช่น:-
- I bumped my head on a low branch.
=ฉันชนศีรษะที่กิ่งไม้ต่ำ.
-He slapped me on my hand gentle.
=เขาตบฉันที่มือเบาๆ.
-He kissed her on the red cheek.
=เขาจูบเธอที่แก้มแดง.
ใช้เชื่อมต่อกับอนุประโยค
-ใช้เชื่อมต่อกับอนุประโยค เช่น:-
-I go to school during my son is learning.
=ฉันไปโรงเรียนในช่วงลูกชายของฉันกำลังเรียนอยู่.
-I walk behind Chanisa who is walking on the road.
=ผมเดินข้างหลังชนิสาผู้ซึ่งกำลังเดินอยู่บนท้องถนน.
-We live inside when you go out to work.
=พวกเราอาศัยอยู่ภายในเมื่อคุณออกไปทำงาน.
ใช้เชื่อมต่อกับกรรม
-บุพพบทที่ใช้เชื่อมต่อกับกรรม เช่น:-
-She speaks Thai Language with John.
=หล่อนพูดภาษาไทยกับจอห์น.
-We resent to thing she did.
=พวกเราไม่พอใจต่อสิ่งที่หล่อนทำ.
-Veeradech gives several gifts for her.
=วีรเดชให้ของขวัญหลายชิ้นแก่เธอ.
Preposition หรือคำบุพบทคือ คำที่ใช้เชื่อมคำนามกับคำนาม หรือเชื่อมคำนามกับ
วลี/ประโยค โดยจะมีอยู่ประมาณ 40 กว่าคำที่ใช้บ่อย และการใช้ preposition จะแบ่ง
ออกเป็น 3 วิธี ดังนี้
1. การใช้ preposition ตามความหมายของ preposition
2. การใช้ preposition แสดงวันที่, วัน, เดือน, ปี และเวลา
3. การใช้ preposition แบบ collocation (คอลโลเคชั่น คือการจัดระเบียบ)
ท่านผู้อ่านคงเคยเรียนรู้คำบุพบทแบบแบ่งออกเป็นคำบุพบทแสดงเวลา, สถานที่, ทิศทาง, ฯลฯ ซึ่งเป็นการเรียนรู้ที่ไม่ค่อยได้ผล เพราะผู้ใช้ต้องมาเสียเวลานั่งนึกก่อนว่า คำบุพบทแสดงเวลา, สถานที่, ทิศทาง, ฯลฯ นั้นมีอะไรบ้าง ทำให้ไม่ทันกิน ก็เลยไม่ได้พูด ไม่ได้ใช้กันเสียที
ส่วนการศึกษาการใช้ preposition ตามการแบ่งด้วยวิธีทั้ง 3 นี้ จะมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลกว่ามาก เพราะเป็นวิธีการใช้ที่เป็นธรรมชาติในแบบที่เจ้าของภาษาใช้กันนั่นคือเวลาเราจะใช้ก็ใช้ออกมาได้เองโดยอัตโนมัติเหมือน กับว่า preposition เหล่านี้ติดอยู่ที่ริมฝึปากเราอยู่ตลอดเวลานั่นเอง ดังท่านผู้อ่านจะได้เห็นต่อไป
1.การใช้ preposition ตามความหมายของ preposition
Preposition แต่ละคำจะมีความหมายประจำตัวของตัวเองอยู่แล้ว และเราสามารถใช้ไปตามความหมายนั้นๆได้ ดังนั้น จึงขอให้ท่านผู้อ่านท่องจำความหมายของ preposition ดังต่อไปนี้ให้ขึ้นใจ พร้อมทั้งดูประโยคตัวอย่างประกอบไปด้วย แล้วท่านผู้อ่านก็จะเข้าใจการใช้ preposition แต่ละคำอย่างกระจ่างแจ้งทีเดียว
การใช้ on
-on แปลว่า"บน" คือบนพื้นผิวของบางสิ่งบางอย่าง เช่น:-
-The glass is on the table.
=แก้วอยู่บนโต๊ะ.
-Birds fly on air.
=นกทั้งหลายบินอยู่บนอากาศ.
-People are on a car.
=คนทั้งหลายอยู่บนรถ.
การใช้ in
-in แปลว่า "ใน" คือในห้อง ในบ้านเรือน ในบางประเทศ ในสถานที่เป็นที่อยู่อาศัย ในช่วงระยะเวลาหนึ่งๆ เช่น:-
-He is in his room.
=เขาอยู่ในห้อง.
-I live in Thailand.
=ฉันอาศัยอยู่ในประเทศไทย.
-She is in hospital.
=หล่อนอยู่ในโรงพยาบาล.
-Put it in that box.
=จงใส่มันในกล่องนั้น.
- ข้อนี้กิริยา put มีกรรมใหวาง in ไว้หลังกรรม
-Can you do this in a week?
=คุณสามารถทำสิ่งนี้ในหนึ่งสัปดาห์หรือ?
การใช้ at
-at แปลว่า "ที่่, ณ, ตอน, อย่าง, เมื่อ, โดย, ด้วย, ตรง, ถึง, มายัง, พอ, ในการ"
-Put it down at that corner.
=จงใส่มันลงไปที่มุมนั้น.
–They live at Sereethai Road.
=พวกเขาอาศัยอยู่ที่ถนนเสรีไทย.
–He studies at a university.
=เขาศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัย.
–She works at a hospital.
=หล่อนทำงานที่โรงพยาบาล.
–He is at a hospital to visit his friend working there.
=เขาอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมเพื่อนของเขาที่ทำงานอยู่ที่นั้น.
–I will leave at 2 o’clock.
=ฉันจะจากไปในเวลา 2 นาฬิกา.
–He died at 92.
=เขาตายเมื่ออายุได้ 92 ปี.
การใช้ in และ at เกี่ยวกับสถานที่
เราจะเห็นว่า in และ at ต่างก็ใช้กับ ‘สถานที่’ ได้ แต่การใช้จะแตกต่างกันดังนี้
-In มีความหมายว่า "ใน, ภายใน" พื้นที่ของบางสิ่งเพราะฉะนั้น in จึงเน้นการใช้กับสิ่งที่มีพื้นที่และเราก็ได้เข้าไปอยู่ในพื้นที่นั้น เช่น:-
-in the room =ในห้อง
-in prison =ในคุก
-in the building =ในอาคาร
-in Siam Square =ในสยามสแควร์
-in the community =ในชุมชน
-in the area =ในพื้นที่
-in the province =ในจังหวัด
-in the country =ในประเทศ
-in the sky =ในท้องฟ้า
-in the sea =ในทะเล
-in the ocean =ในมหาสมุทร
-in the world =ในโลก
-in space =ในช่องว่าง
-in the universe =ในจักรวาล
เราใช้ in เกี่ยวกับพื้นที่และเราได้เข้าไปอยู่ในพื้นที่นั้น เช่น:-
–We have arrived in area of Bangkok.
=พวกเราได้เดินทางมาถึงในพื้นที่ของกรุงเทพฯแล้ว.
–Thailand is a country in Asia.
=ไทยเป็นประเทศหนึ่งในทวีปเอเซีย.
ส่วน at มีความหมายว่า แปลว่า "ที่, ณ, ณที่" ณ สถานที่ต่างๆ
At จึงเป็นการใช้เน้นที่ต้วสถานที่ ให้ความสำคัญกับตัวสถานที่ ไม่ได้เน้นการเข้าไปอยู่ในพื้นที่ของสถานที่นั้นๆ แม้ว่าจริงๆแล้วเราก็ได้เข้าไปอยู่ในพื้นที่ของสถานที่นั้นๆแล้วก็ตาม เช่น:-
-at home =ที่บ้าน
-at the office =ที่สำนักงาน
-at the airport =ที่ท่าอากาศยาน
-at Centre Point =ที่จุดศูนย์กลาง
-at Queen Sirikit Convention Center =ที่ศูนย์สิริกิติ์
-at the exhibition hall =ที่ห้องโถงนิทรรศการ
-at the university =ที่มหาวิทยาลัย เป็นต้น
-เราใช้ at เมื่อการใช้เป็นการเน้นที่ตัวสถานที่ ให้ความสำคัญกับตัวสถานที่ไม่ใช่พื้นที่ของสถานที่นั้นๆ เช่น:-
–We have arrived at the airport.
=พวกเราได้เดินทางมาถึง ณที่ ตัวสนามบินแล้ว.
–I studied at Ramkhamhaeng University.
=ผมศึกษาอยู่ ณ มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
–She is 20 and works in the fast food industry, one at a burger restaurant and one at a pizza place.
=หล่อนอายุ 20 และทำงานอยู่ในภาคอุตสาหกรรมอาหาร แห่งหนึ่งคือทำอยู่ ณ ร้านอาหารขายเบอร์เกอร์ และอีกแห่งหนึ่งทำอยู่ ณ ร้านขายพิทซ่ะ.
–I was a student in the Department of Government at the
Faculty of Political Science of Chulalongkorn University. And
she was a physics student studying in the Faculty of Science
at Mahidol University.
=ผมเป็นนิสิตในภาควิชาการปกครอง ณ คณะรัฐศาสตร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ส่วน หล่อนเป็น นักศึกษาฟิสิกซ์ที่กำลังศึกษาในคณะวิทยาศาสตร์ ณ มหาวิทยาลัยมหิดล.
-กลเม็ดการใช้ in และ at ที่เกี่ยวกับสถานที่ในเชิงปฏิบัติ สถานที่ที่มีพื้นที่ไม่กว้างมากนัก เช่น บ้าน, สำนักงาน, อาคารหรือสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ฯลฯ สามารถใช้ได้กับทั้ง in และ at อันขึ้นอยู่กับสถานการณ์การใช้ของเราว่าเราต้องการเน้นที่พื้นที่หรือเน้นที่ตัวสถานที่นั้น เช่น:-
–in the house or at home =ในบ้านหรือที่บ้าน
–in or at the office =ในหรือที่สำนักงาน
–in or at the building =ในหรือที่อาคาร
–in or at a hotel =ในหรือที่โรงแรม
–in or at the Faculty of Political Science =ในหรือที่คณะรัฐศาสตร์
แต่ถ้าเป็นสถานที่ที่มีพื้นที่กว้างมากตั้งแต่ระดับชุมชน, หมู่บ้าน, ตำบล, อำเภอ, จังหวัด, ประเทศ, ทวีป, ทะเล,มหาสมุทร, โลก, อวกาศ, ไปจนถึงระดับจักรวาล ก็จะใช้กับ in เสมอ
-at the back of = ที่อยู่ตรงส่วนท้าย, แถวสุดท้ายของ เช่น:-
–His photo is at the back of his book.
=ภาพถ่ายของเขาอยู่ที่ด้านหลังของหนัง.
–He sat at the back of the classroom.
=เขานั่งอยู่ข้างหลังชั้นเรียน.
-at the front of = ที่อยู่ตรงส่วนหน้า, แถวหน้าสุดของ เช่น:-
–Her news is at the front of the newspaper.
=ข่าวของเธออยู่ที่หน้าของหนังสือพิมพ์.
–She sat at the front of the classroom.
=หล่อนนั่งอยู่ข้างหลังชั้นเรียน.
-behind = ที่อยู่ถัดไปจากด้านหลังของ เช่น:-
–The car park is behind the bank.
=ที่จอดรถอยู่ข้างหลังธนาคาร.
-in front of = ที่อยู่ถัดไปจากด้านหน้าของ; ตรงหน้า เช่น:-
–Flag pole is in front of the school.
=เสาธงอยู่ข้างหน้าโรงเรียน.
–My teacher stands in front of the classroom.
=ครูของฉันยืนอยู่ข้างหน้าชั้นเรียน.
–The accident occurred in front of me.
=อุบัติเหตุเกิดขึ้นข้างหน้าฉัน.
-above = ที่อยู่สูงขึ้นไปจาก(บางสิ่ง) เช่น:-
–The sun is above my head.
=พระอาทิตย์อยู่เหนือศีรษะฉัน.
-over = เหนือ; คลุมอยู่เหนือ; ด้านบนของ(บางสิ่ง) เช่น:-
–The blanket is still over my kid.
=ผ้าห่มยังคงอยู่เหนือเด็กของฉฉัน.
-about = เกี่ยวกับ; ประมาณ (adverb) เช่น:-
–This website is about English.
=เว็บไซต์นี้เกี่ยวกับภาษาอังกฤษ.
–The service may cost about 1,000 baht.
=การบริการอาจจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 1000 บาท.
-across = ข้าม เช่น:-
–I walked across the street.
=ฉันเดินข้ามถนน.
against = ตัดกับ/พิงกับ; ต่อต้าน เช่น:-
–The white tie is against the black shirt.
=เนกไทอยู่ติดกับเสื้อเชิร์ตสีดำ.
–The bike is against the wall.
=จักรยานพิงกับกำแพง.
–Are you against me?
=คุณต่อต้านฉันหรือ?
-along = (เดิน/วิ่ง/แล่น)ไปตาม เช่น:-
–I’m walking along the road.
-as = ในฐานะที่เป็น เช่น:-
–She works as a doctor.
=หล่อนทำงานในฐานะที่เป็นหมอ.
-among = "ท่ามกลาง" สิ่งของหลายๆสิ่ง; "ในหมู่" บุคคลหลายๆคน เช่น:-
–I’m being among the people.
=ฉันกำลังอยู่ท่ามกลางประชาชน.
-between = อยู่ระหว่างสิ่งของ 2 สิ่งขึ้นไป; อยู่ระหว่างบุคคล 2 คนขึ้นไป เช่น:-
–I sat between 2 women.
-away from = ออกมาจาก; ออกไปจาก; ห่างออกมาจาก; ห่างออกไปจาก เช่น:-
–I’m moving away from him.
=ฉันกำลังย้ายไปจากเขา.
-out of = ออกมาจาก; ออกไปจาก; ห่างออกมาจาก; ห่างออกไปจาก เช่น:-
–A beautiful woman got out of a car.
=สาวงามออกจากรถ.
–Shoppers are pouring out of a shopping mall.
=ผู้ซื้อของทั้งหลายกำลังไหลออกจากห้างสรรพสินค้า.
-from = จาก(สถานที่ที่เราอยู่); จาก(คนที่อยู่ห่างออกไป/สถานที่ที่อยู่ห่างออกไป) เช่น:-
–From here I can see the view clearly.
=จากที่นี่ฉันสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์อย่างชัดเจน.
–The email is sent from my friend.
-before = ก่อน เช่น:-
–I will come back before noon.
=ฉันจะกลับมาก่อนเที่ยง.
-after = หลัง เช่น:-
–I will come back after noon.
=ฉันจะกลับมาหลังเที่ยง.
-below = ที่อยู่ต่ำลงไปจาก(บางสิ่ง); ที่อยู่ต่ำลงมาจาก(บางสิ่ง) เช่น:-
–There is a brook below this village.
=มีลำธารข้างล่างหมู่บ้านนี้.
–The SET Index dropped below 1000 for the first time since 2010.
=ดรรชนีการตั้งลดต่ำลง 1000 เป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2010.
-under = ใต้ เช่น:-
–My dog was under the blanket with me.
=สุนัขของฉันอยู่ใต้ผ้าห่มพร้อมกับฉัน.
การใช้ by
-by = เคียงข้างกับ; โดย; ราวๆ(เวลา); (จับ/สัมผัส/ฉุด)ที่ส่วนใดๆ(ของร่างกาย) เช่น:-
–He always stands by me.
=เขายืนอยู่เคียงข้างฉันเสมอ.
–English website by me and my sister.
=เว็บไซต์ภาษาอังกฤษโดยฉันและพี่สาวของฉัน.
–I will come back by 6 o’clock.
=ฉันจะกลับมาราว 6 นาฬิกา.
–He took me by my hand.
=เขาจับฉันที่มือของฉัน.
-beyond = เกินขอบเขตของ(บางสิ่ง)ออกไป เช่น:-
-It is beyond the limit.
=มันอยู่นอกเหนือขีดจำกัด.
-down = (เดิน/วิ่ง/แล่น)ไปตาม; ลง(บันได/จากที่สูง) เช่น:-
–I’m walking down the road.
=ฉันกำลังเดินลงไปยังถนน.
–The cat’s climbing down the tree.
=แมวกำลังปีนลงจากต้นไม้.
-up = ขึ้น(บันได/ไปที่สูง) เช่น:-
–I’m stepping up the stairs.
=ฉันกำลังก้าวขึ้นบรรได.
-during/ดุริง = ช่วงระหว่างเวลาใดๆ เช่น:-
–I’ll be in the country during this weekend.
-for = สำหรับ; เพื่อ เช่น:-
–This is for you.
=นี่สำหรับคุณ.
–I’ll do it for you.
=ฉันจะทำมันให้คุณ.
-inside = ข้างใน เช่น:-
–I’m inside the bookstore.
=ฉันอยู่ข้างในร้านหนังสือ.
-outside = ข้างนอก เช่น:-
–I’m outside the shopping mall.
=ฉันอยู่ข้างนอกห้างสรรพสินค้า.
-into = มุ่งไปยัง; มุ่งมายัง; ไปใน (into มีนัยว่าได้สัมผัสกับสิ่งนั้นแล้ว) เช่น:-
–This bus’s moving into town.
=รถบัสคันนี้กำลังวิ่งเข้าไปในเมือง.
–He walked into the court without any glance at relatives’ bench.
=เขาเดินเข้าไปยังศาลโดยไม่มีการชำเลืองตาที่ม้าของญาติ.
-to = ไปยัง, มายัง เช่น:-
–This bus’s going to Silom.
=รถเมล์คันนี้กำลังวิ่งไปสีลม.
-toward(s) = ตรงไปยังทิศทางของ เช่น:-
–We’re moving toward the right direction.
=พวกเรากำลังย้ายไปยังทิศทางที่ถูกต้อง.
-near = ใกล้กับ เช่น:-
–I live near 2 shopping malls.
=ฉันอยู่ใกล้ห้างสรรพสินค้า 2.
-off = (ลง/หลุด/หล่น)จาก เช่น:-
–A man got off the bus.
=ผู้ชายลงจากรถเมล์.
–The car skidded off the road
=รถเสียหลักไถลหลุดออกไปจากถนน.
–He fell off the ladder.
=เขาตกลงจากบรรได.
-onto/upon = ไปบน เช่น:-
–Don’t step onto or upon that mud.
=อย่าก้าวเข้ามายังหรือขึ้นบนโคลนนั้น.
-opposite = ตรงข้ามกับ เช่น:-
–I sat opposite a pretty girl on a sky train.
=ผมนั่งอยู่ตรงกันกับสาวสวยบนรถไฟฟ้า.
-past = (เดิน/วิ่ง/แล่น)ผ่าน เช่น:-
–A cat ran past me.
=แม้ววิ่งผ่านฉันไป.
-through = ลอดผ่าน; แหวกผ่าน เช่น:-
–My dog jumped through the car door onto the back seat.
=สุนัขของฉันกระโดดลอดผ่านประตูรถยนต์เข้าไปยังที่นั่งเบาะหลัง.
–The train is moving through the tunnel.
=รถไฟกำลังเคลื่อนผ่านอุโมงค์ไป.
–A superstar is walking through the crowd.
=ซุปเปอร์สตาร์กำลังเดินผ่านฝูงชน.
-throughout "ตลอด" ในทุกๆส่วนของสถานที่ใดๆ; ตลอดทั้ง(วัน/คืน/ปี/ชีวิต) เช่น:-
–He used to travel throughout the world.
=เขาใช้การเดิทางท่องเที่ยวไปตลอดทั้งโลก.
–You will suffer throughout your life if you don’t do that.
=คุณจะต้องทนทุกข์ทรมานจนตลอดชีวิตถ้าคุณไม่ทำอย่างนั้น.
-with = กับ; ด้วย; ที่มี(บางสิ่ง)ติดตัวมาด้วย เช่น:-
–Use this knife with that fork.
=จงใช้มีดเล่มนี้พร้อมกับส้อมนั้น.
–She does it with her own hand.
=หล่อนไม่ทำมันด้วยมือของตัวเอง.
–My dad came back with something in his briefcase.
=พ่อของฉันกลับมาพร้อมกับสิ่งที่อยู่ในกระเป๋าของเขา.
-within = ภายในกำหนดของเวลาใดๆ; ภายในระยะทางใดๆ เช่น:-
–He’ll come back within 10 minutes.
=เขาจะกลับมาายใน 10 นาที.
–My office is within 100 metres of my house.
=สำนักงานของฉันอยู่ในระหว่าง 100 เมตร จากบ้านของฉัน.
-without = โดยปราศจาก เช่น:-
–Why did you do it without my permission?
=ทำไมคุณจึงทำมันโดยปราศจากการอนุญาตของฉัน?
-around/round เช่น:-
1.ไปรอบๆ: We run around the park. =พวกเราเดินรอบที่จอดรถ.
-He is travelling around the world. =เขากำลังเดินทางท่องเทียวไปรอบโลก.
2. ลัดเลาะตามแนวของ: We walk around the foot of the hill. =พวกเราเดินรอบเชิงเขา.
3. อ้อม: We should walk around the field. =พวกเราจะเดินอ้อมสนาม.
4. อ้อมจากตรงนี้ไปที่: The entrance is around the front. =ทางเข้าอยู่รอบด้านหน้า.
Preposition ต่อไปนี้ใช้ได้ในหลายกรณี
1.at ใช้กับสถานที่ แปลว่า ที่ เช่น:-
-at the station = ที่สถานี
-at the office = ที่สำนักงาน
-at the bank = ที่ธนาคาร (หมายถึงจุดตำแหน่งของสถานที่นั้น)
-at ใช้กับเวลา แปลว่า เมื่อเวลา เช่น
-at 8 o’clock = เมื่อเวลา 8 นาฬิกา
-at noon = เวลาเที่ยงวัน
-at midnight = เวลาเที่ยงคืน (หมายถึงจุดหนึ่งของเวลา)
2.inใช้กับสถานที่แปลว่า ใน เช่น:-
-in the box = ในกล่อง
-in the house = ในบ้าน
-in Bangkok = ในกรุงเทพ
-in Thailand = ในประเทศไทย (หมายถึงภายในสถานที่, พื้นที่)
-in ใช้กับ เดือน, ปี, ฤดู, ช่วงระยะเวลาแปลว่า ใน
-เช่น in the morning - ในเวลาตอนเช้า
-in june = ในเดือนกรกฎาคม
-in summer = ในฤดูร้อน
-in 1999 = ในปี 1999
3.on ใช้กับ สถานที่แปลว่า บน เช่น:-
-on the table = บนโต๊ะ
-on the tree = บนต้นไม้
-on seelom street = บนถนนสีลม
-on my head = บนศรีษะของฉัน
-on ใช้กับวัน, วันที่, วันสำคัญต่างๆ แปลว่า ใน เช่น:-
-on Monday = ในวันจันทร์
-on Janury 2 = ในวันที่ 2 มกราคม
-on my birthday = ในวันเกิดของฉัน
4.for โดยทั่วไปแปลว่า "เพื่อ, สำหรับ, แก่" เช่น:-
-for you = เพื่อคุณ
-for me = เพื่อฉัน
-for people = เพื่อประชาชน
-for our country = เพื่อประเทศของพวกเรา
-for her =แก่เธอ
-for ใช้กับเวลาแปลว่า "เป็นเวลา" เช่น:-
-for ten minutes = เป็นเวลา 10 นาที
-for two weeks = เป็นเวลาสองสัปดาห์
-for two years = เป็นเวลาสองปี
5.since แปลว่าตั้งแต่ ใช้บอกจุดเริ่มต้นของเวลาและเหตุการณ์นั้นๆ เช่น:-
-since 1995 = ตั้งแต่ปี 1995
-since last year. = ตั้งแต่ปีที่แล้ว
6.during แปลว่า "ระหว่าง" (เวลา) เช่น:-
-during the summer = ระหว่างฤดูร้อน
-during my vacation = ระหว่างวันหยุดของฉัน (บอกความต่อเนื่องของเวลา)
7.between แปลว่า "ระหว่าง (สองสิ่ง)W เช่น:-
-B is between A and C= B อยู่ระหว่าง A และ C
-Jenny is sitting between John and Tom. = เจนนี่กะลังนั่งอยู่ระหว่างจอห์นและทอม
8.among "แปลว่า ระหว่าง (สามขึ้นไป)" เช่น:-
-C is among A, B and D = C อยุ่ระหว่าง A, B และ D
-Jenny is among Tom, John and Jack = เจนนี่อยู่ระหว่างทอม จอห์น และแจ๊ค
9.over แปลว่า "เหนือ (ตรงแนวดิ่งขึ้นไป)" เช่น:-
-The sun is over our heads at noon.
=ดวงอาทิตย์ตรงศีรษะของพวกเราในเวลาเที่ยงวัน
10. above แปลว่า "เหนือ (ตรงไหนก็ได้ที่สูงกว่า)W เช่น:-
-The plane is above our heads.
=เครื่องบินอยู่เหนือศีรษะของเรา (ตรงไหนก็ได้)
ตัวอย่างการใช้ Preposition
-I was born in Bangkok. =ฉันเกิดในกรุงเทพ
-I was born in July in 1980. =ฉันเกิดในเดือนกรกฎาคม ในปี 1980
-I have a ruler in my school bag. =ฉันมีไม้บรรทัดในกระเป๋าโรงเรียนของฉัน
-I am interested in English. =ฉันสนใจในภาษาอังกฤษ
-I have no trust in his words. =ฉันไม่ไว้วางใจในคำพูดของคุณ
-This material is made in Thailand. =วัตถุนี้ทำในประเทศไทย
-I don’t work on Sundays. =ฉันไม่ทำงานในวันอาทิตย์
-I go to school on foot. =ฉันไปโรงเรียนด้วยเท้า (เดินไป)
-I congratulate you on your success. =ฉันขอแสดงความยินดีในความสำเร็จของคุณ
-My English book is on the table. =หนังสือภาษาอังกฤษของฉันอยู่บนโต๊ะ
-She insisted on going to the zoo. =หล่อนยืนยันว่าจะไปสวนสัตว์
-I didn’t do that on purpose. =ฉันไม่ได้ทำสิ่งนั้นโดยเจตนา
-I am good at English. =ฉันเก่งภาษาอังกฤษ
-I’ll be back at 10 o’clock. =ฉันจะกลับมาเมื่อเวลา 10 นาฬิกา
-He looked at me angily yesterday. =เขามองดูฉันอย่างไม่พอใจเมื่อวานนี้
-I smile at her every day. =ฉันยิ้มให้หล่อนทุกวัน
-I live at 123 Taksin Soi 24. =ฉันอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 123 ซ. ตากสิน 24
-He is laughing at you now. =เขากำลังหัวเราะเยาะคุณขณะนี้
-I’m waiting for you now. =ฉันกำลังคอยคุณอยู่ขณะนี้
-I have worked here for six years. =ฉันได้ทำงานอยู่ที่นี่เป็นเวลา 6 ปี
-I’m leaving for the office. =ฉันกำลังออกไปจากสำนักงาน
-I can buy a ring for you. =ฉันสามารถซื้อแหวนให้คุณได้
-I’m looking for a job now. =ฉันกำลังหางานทำขณะนี้
-I can do it for you. =ฉันสามารถทำให้คุณได้
-I go to school by bus every day. =ฉันไปโรงเรียนโดยรถเมล์ทุกวัน
-You can go to Chiang Mai by plane. =คุณสามารถไปเชียงใหม่ได้โดยเครื่องบิน
-That letter was sent by her. =จดหมายนั้นถูกส่งไปแล้วโดยหล่อน
-This book was written by Chanchai. =หนังสือนี้ถูกเขียนโดยชาญชัย
-This piece of cloth is made by hand. =ผ้าชิ้นนี้ถูกทำขึ้นด้วยมือ
หลังจากที่ได้เรียนรู้มาแล้ว ดิฉันก็สามารถใช้คำบุพบทเหล่านี้ได้ และดิฉันสามารถนำคำเหล่านี้มาเขียนเป็นรูปประโยคได้
..... อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/478159
No comments:
Post a Comment