วิธีจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษ
สวัสดีนักเรียนและผู้ศึกษาทั้งหลายบัดนี้เราก็มาถึงบทสุดท้ายในการเรียนภาษาอังกฤษแล้ว ข้าพเจ้าจะนำเอาวิธีจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษมาเสนอ การเรียนภาษาอังกฤษคำศัพท์นับว่าเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญที่สุดในการเรียน ถ้าท่านไม่รู้คำศัพท์แล้วท่านจะไปเรียนไวยกรณ์อังกฤษส่วนอื่น เช่น part of speech คือส่วนแห่งคำพูด sentence คือประโยค tense คือกาล ไม่ได้เลยเพราะ ส่วนแห่งคำพูด, ประโยค, และกาล ล้วนแล้วแต่เกิดมาจากคำศัพท์ทั้งสิ้น ถ้าท่านจำคำศัพท์และความหมายของมันไม่ได้ท่านก็จะอ่าน, พูด, ฟัง, และเขียน ภาษาอังกฤษไม่ได้เลย คนพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ก็เพราะเขาจำคำศัพท์ไม่ได้ เวลาไปเจอฝรั่งๆถามก็ไม่รู้เรื่องเพราะไม่รู้ว่าเขาถามอะไร ถ้าฟังรู้เรื่องแต่ถ้าจำคำศัพท์ไม่ได้ก็ไม่รู้ว่าจะตอบเขาอย่างไร เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าจึงพูดได้เต็มปากว่า "คำศัพท์เป็นหัวใจสำคัญในการเรียนภาษาอังกฤษ" คนไทยไม่เก่งภาษาอังกฤษเพราะคนไทยจำคำศัพท์ได้น้อยหรือไม่ได้เลย ข้าพเจ้ามีเพื่อนคนหนึ่งเรียนจบปริญญาตรีแต่มีความกลัวภาษาอังกฤษมากคือตำราที่เป็นภาษาอังกฤษเขาจะไม่ดูและแตะต้องมันเลย ข้าพเจ้าเคยถามเขาเกี่ยวกับพยัญชนะในภาษาอังกฤษ 26 ตัว ว่ามีอะไรบ้างเขาก็ตอบไม่ได้ นี้แหละคือจุดอ่อนของคนไทย ข้าพเจ้าเคยสังเกตเกี่ยวกับตนเอง
ถ้าตอนไหนเราจำคำศัพท์ได้มากๆเมื่อเจอฝรั่งแล้วเราไม่รู้สึกกลัวฝรั่งเลยมีความกล้าและมีความมั่นใจในการที่จะพูดคุยกับฝรั่ง นี้แหละครับถ้าเรามีความรู้ก็จะทำให้เราเกิดความกล้าหาญขึ้นมาทันที ต่อไปนี้ข้าพเจ้าจะได้นำเอาเทคนิคการจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษมาเสนอแก่ท่านทั้งหลายดังนี้
-วิธีจำคำศัพท์แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ:-
1.วิธีจำคำศัพท์แบบท่องจำ
2.วิธีจำคำศัพท์แบบไม่ท่องจำ
วิธีจำคำศัพท์แบบท่องจำ
-วิธีจำคำศัพท์แบบท่องจำที่มีประสิทธิภาพให้เตรียมเครืองอุปกรณ์ดังนี้ คือ:-
1.สมุด
2.ปากกา
3.คอมพิวเตอร์,แท็บเล็ต,หรือโทรศัพท์
4.เว็บไซต์เกี่ยวกับคำศัพท์และการออกเสียง
เช่น:-
เว็บไซต์คำศัพท์ 2000 คำ จาก Cambridge
http://cambridgedict.blogspot.com/2012/01/2000.html
บทสนทนาง่ายๆ 1000 คำศัพท์
http://www.englishbychris.com/portfolio-items/1000/
https://www.youtube.com/watch?v=peQXBbutUok
เว็บไซต์คำศัพท์ 3000 คำ จาก Oxford
http://www.oxfordlearnersdictionaries.com/wordlist/english/oxford3000/
เว็บไซต์ท่องคำศัพท์ 5000 คำ
https://www.youtube.com/watch?v=INL8imW1UKQ
เว็บไซต์คำศัพท์ทั่วไป
https://www.youtube.com/watch?v=f2ASArqzbGg
https://www.youtube.com/watch?v=ugBiW7hINXA
https://www.youtube.com/watch?v=xxLsSYIWhxU
https://www.youtube.com/watch?v=hegy93C99N0
เว็บไซต์แปลคำศัพท์และการออกเสียง
https://translate.google.co.th/
https://siamcity.net/translate/
https://www.sanook.com/dictionary/
https://th.forvo.com/languages/en/
ผมขอแนะนำให้ทุุกคนรู้จักกับ'Oxford 3000 key words' ครับ คือ คำศัพย์ 3000 คำที่ใช้บ่อยที่สุดในภาษาอังกฤษหรือพูดง่ายๆก็คือคำศัพท์ 70% ที่ใช้อยู่ทุกวันก็มาจาก 3000 คำนี้แหละครับ หลายคนอาจจะบอกว่า 'เยอะจังตั้ง 3000 แหน่ะ' เยอะ แต่ทุกคำเราได้ใช้แน่นอนครับ สู้ไว้ครับเรามาเริ่มกันเลยครับอันดับแรกเข้าไปที่ ลิ้งค์แรกที่ผมให้ เลื่อนมาข้างล่างสักนิดหนึ่ง เราจะเจอคำศัพท์เรียงกันยาวตามลำดับตัวอักษร(A-Z)ครับ ไม่ต้องกดเข้าไปนะครับ เพราะเราสนใจแค่คำศัพท์และวิธีออกเสียงพอ ถ้ากดเข้าไปเขาจะอธิบายความหมายไว้ในภาษาอังกฤษ หรือพูดง่ายๆคือแปลอังกฤษเป็นอังกฤษอีกทีครับ แต่ถ้าใครจะเข้าไปดูก็ไม่เป็นไรนะครับ ที่นี้วิธีท่องคำศัพท์ของเราก็คือท่องอักษรละ 2 คำต่อวันครับ เอ๊ะ หลายคนอาจจะงง อักษรละ 2 คำต่อวันยังไงหว่า ก็คือวันนี้ให้เราท่องคำศัพท์ให้หมวด A-Z อย่างละสองคำก็จะตกอยู่วันละ 52 คำครับ อาจจะฟังดูเยอะนะ วันละตั้ง 52 ครับ แต่ที่จริงแล้วผมว่ามันก็ไม่เยอะเท่าไหร่นะ แบ่งเวลาท่องออกเป็น 3 ช่วง เช้าท่อง 15 คำ เที่ยง 15 คำ เย็น 15 คำ ที่เหลือก็ก่อนนอน
ถ้าใครฝืนตัวเองให้ทำจนเป็นนิสัยได้นะ ผมบอกเลยว่าคุณจะพัฒนาเยอะมากครับ แต่ถ้าใครไม่ไหวจริงๆก็ให้ลดมาเหลือ อักษรละ 1 คำต่อวันก็ได้ครับแล้วให้เราจดคำศัพท์ที่เราท่องแต่ละวันลงในสมุดนะครับ จดแค่ภาษาอังกฤษนะครับ คำแปลภาษาไทยไม่ต้องจดก็อย่างที่เคยอธิบายไปในบทความที่แล้วครับ (ลองไปหาอ่านดูตอนที่ 1) การที่เราไม่จดภาษาไทยไปเนี่ย จะเหมือนเป็นการบังคับให้เราใช้สมองเพื่อจดจำและเมื่อผ่านไป 2-3 วัน เรากลับมาอ่านจะได้ให้สมองใช้เวลานึกคำศัพท์ที่เราแปลความหมายไม่ได้ วิธีนี้แหละครับจะทำให้เราจำศัพท์ได้เร็วมากแล้วไม่ใช้แค่จดอย่างเดียวนะครับ ให้ฟังด้วยจะเห็นว่ามีปุ่มให้กดอยู่ 2 ปุ่ม สีน้ำเงิน กับสีแดง ปุ่ม 2 ปุ่มนี้คือเสียงเจ้าของภาษาพูดคำศัพท์ครับ สีน้ำเงิน คือ สำเนียงอังกฤษ (ฺBritish English) สีแดง คือ สำเนียงอเมริกัน (American English) ให้เราเลือกฝึกพูดตาม 1 สำเนียงนะครับ ตามใจชอบเลย ให้ลองอัดเสียงดูว่า เวลาเราพูดตามสำเนียงไหน เสียงเราฟังดูเหมือนมากกว่า หากเสียงเราไปทางสำเนียงอังกฤษ ก็ให้ฝึกพูดตามสำเนียงอังกฤษนะครับ แต่ถ้าไปอีกสำเนียงก็ฝึกตามสำเนียงนั้นต้องฝึกพูดตามและฟังให้ออกด้วยนะครับ เพื่อครั้งหน้าเราได้ยินหรือได้ใช้ จะได้รู้ว่าต้องออกเสียงยังไงให้ฝรั่งเข้าใจเอ่อ อย่าลืมแปลความหมายคำศัพท์ด้วยนะครับ ไม่ใช่ว่าพูดได้สำเนียงเป๊ะ แต่ไม่รู้ความหมายก็ไม่ไหวนะครับ
วิธีจำคำศัพท์แบบไม่ท่องจำ
วิธีจำคำศัพท์แบบไม่ต้องท่องจำ วิธีนี้เป็นวิธีที่ข้าพเจ้าผู้เขียนตำราเล่มนี้คิดค้นขึ้นมาเพื่อการจดจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษแบบไม่ต้องท่องจำเมื่อตอนวัยเด็กข้าพเจ้าเรียนภาษาอังกฤษในชั้น ม.5 ข้าพเจ้ามีเพื่อนคนหนึ่งชื่อว่า "ทองสุข" เพื่อนคนนี้เขาเก่งในวิชาภาษาอังกฤษมาก ปรากฏว่าเขาจะได้คะแนนมากกว่าทุกๆคนที่อยู่ในชั้น ม.5 ข้าพเจ้าถามเขาว่าทำไมคุณถึงจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษได้มากกว่าครู เขาบอกว่าเขาได้ซื้อดิคชั่นนะรี่มาเล่มหนึ่งแล้วก็ฉีกดิคชั่นนะรี่นั้นวันละ 1 แผ่น ดิคชั่นนะรี่ที่ฉีกออกมานั้นเขาจะท่องคำศัพท์ที่มีในแผ่นนั้นให้จำได้หมด เขาใช้เวลาท่องอยู่ 2 ปี เขาก็จำได้หมด เพราะฉะนั้นเขาจึงจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษได้มากกว่าครู พอเรียนจบ ม.6 ต่างคนก็ต่างไปตามเส้นทางแห่งความปราถนาของตนเอง อีก 10 ปี ต่อมาข้าพเจ้าได้พบเขาที่วัดพระธาตุพนม ข้าพเจ้าเลยถามเขาว่าคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่จำได้ในสมัยเรียน ม.5 -ม.6 นั้น ตอนนี้ยังจำได้เหมือนเดิมหรือเปล่า เขาบอกว่ามันเข้ากลีบเมฆไปหมดแล้วคือลืมไปหมดแล้วเหลือบ้างนิดหน่อยตั้งแต่เรียนจบแล้วก็ไม่ได้ทวบทวนมันก็เลยลืมหมดข้าพเจ้าจึงมาได้ข้อสรูปว่าการเรียนคำศัพท์โดยวิธีการท่องจำนั้นเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้อง เพราะเหตุนี้จึงทำให้ข้าพเจ้าคิดหาวิธีจำคำศัพท์แบบไม่ต้องท่องจำ เมื่อข้าพเจ้าได้มาเรียนต่อที่อินเตอร์เนทยูนิเวอร์ซิตี้ข้าพเจ้าคิดค้นวิธีนี้ขึ้นมาได้ วิธีการมีดังนี้
หลักการจำคำศัพท์แบบไม่ต้องท่องจำมี 7 ข้อ
1.ต้องจำตัวพยัญชนะ 26 ตัว และตัวสระ 5 ตัวให้ได้
2.ให้หาศัพท์เกี่ยวกับตัวเราและสิ่งใกล้ตัวเราขึ้นมาทีละคำ เช่น เรามองเห็นอากาศที่ว่างเปล่ารอบๆตัวเรา คำว่า "อากาศ" ในภาษาอังกฤษเรียกว่า "air" เมื่อได้คำศัพท์คือ air มาแล้ว โปรดสังเกตและจำไว้ให้ดีว่าคำว่า air นั้น ตัว a อยู่หน้าตัว i ให้จำแค่นี้ท่านก็จะเขียนและจดจำคำศัพท์ได้ถูกต้องไปตลอดชีวิตโดยไมต้องท่องจำเลย คำศัพท์คำเดียวคือ air เราสามารถทำให้มันขยายคำศัพท์ออกไปอีก 6 คำ คือ:-
1.เมื่อนำคำว่า "air" ไปต่อท้าย ch ก็จะได้คำศัพท์เพิ่มขึ้นมาใหม่ว่า "chair" แชร์ แปลว่า "เก้าอี้"
2.เมื่อเอา air ไปต่อท้าย d แล้วก็เติม y ข้างหลัง r ก็จะเกิดคำศัพท์ใหม่ขึ้นมาว่า "dairy" แดรี่ แปลว่า "โรงรีดนม, ร้านขายนม,ฟาร์มนม"
3.เมื่อเอา air ไปต่อท้าย f ก็จะเกิดเป็นคำศัพท์ใหม่ว่า fair แฟร์ แปลว่า "ยุติธรรม, ถูกต้อง, ซื่อสัตย์"
4.เมื่อเอา air ต่อท้าย h ก็จะเกิดเป็นคำศัพท์ใหม่ว่า "hair" แฮร์ แปลว่า "ผม"
5.เมื่อเอา air ไปต่อท้าย L ก็จะได้คำศัพท์ใหม่ว่า "Lair" แลร์ แปลว่า "ที่ซ่อน, รังสัตว์, ถ้ำสัตว์"
6.เมื่อเอา air ไปต่อท้าย p ก็จะได้คำศัพท์ว่า "pair" แพร์ แปลว่า "คู่"
-เมื่อเอา air ไปต่อท้าย พยัญชนะ 26 ตัวก็จะได้คำศัพท์เพิ่มขึ้นมาใหม่อีก 6 ตัวคือ:-
1.chair =เก้าอี้
2.dairy =โรงรีดนม
3.fair =ยุติธรรม
4.hair =ผม
5.lair =ถ้ำสัตว์
6.pair =คู่
7.คำศัพท์ที่เกิดจาก air อีก 8 คำคือ:-
-repair (รีแพร์) =ซ่อมแซม
-airplane (แอร์เพลน) =เครื่องบืน
-airport (แอร์พอร์ท) =สนามบิน, ท่าอากาศยาน
-airsoft (แอร์ซอฟท์) =ปืนอัดลม
-airfield (แอร์ฟิลด์) =สนามบิน
-airship (แอร์ชิพ) =เรือเหาะ, เครื่องบิน
-airbus (แอร์บัส) =รถปรับอากาศ
-airdrom (แอร์โดรม) =สนามบิน
คำศัพท์ทั้ง 6 คำเหล่านี้ล้วนเกิดมาจาก air ทั้งสิ้น ถ้าท่านเขียน air ถูกท่านก็จะเขียนคำเหล่านี้ได้ถูกต้องโดยไม่ต้องท่องจำ
3.สังเกตการเขียนคำศัพท์ให้ถูกก็เป็นการจำที่ดีอีกชนิดหนึ่ง เช่น:-
-beautiful =สวยงาม
-หลักในการอ่านเช่น beau - ti - ful ให้แยกออกมาอ่านอย่างนี้จะทำให้เราจำคำศัพท์นี้ได้อย่างไม่ลืมเลย
-friend =เพื่อน
-อ่านเป็น fri -end
-Thairath =ไทยรัฐ
-อ่านเป็น Thai - rath
-afraid =กลัว
-อ่านเป็น af - raid
-greensward =สนามหญ้า
-อ่านเป็น green - sward
-ถ้าเราเอาคำศัพท์คือ our ที่แปลว่า "ของพวกเรา" ที่เป็นคำ Possessive adjective คือสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของ มาใช้ผสมกับคำนามตัวอื่นก็จะเกิดเป็นคำศัพท์อื่นได้ดังนี้เช่น:-
-four =4
-อ่านเป็น f - our
-tour =การท่องเที่ยว
-อ่านเป็น t - our
-hour =ชั่วโมง
-อ่านเป็น h - our
คำศัพท์ทั้ง 3 เหล่านี้เกิดมาจากคำว่า "our" ผสมกับอักษรตัวอื่น จงจำวิธีนี้ให้ดี
-their =ของพวกเขา
-อ่านเป็น the - ir
-frequency (ฟริเควนซี่) =ความถี่
-อ่านเป็น fre - quen - cy
ให้คิดหาคำศัพท์ที่มักเขียนผิดแยกอ่านแบบนี้จะทำให้เราจำคำศัพท์นั้นอย่างไม่ลืมเลย
4.การเพิ่มคำศัพท์จากตัวเราและสิ่งที่อยู่ใกล้ตัว
การเพิ่มคำศัพท์จากตัวเรา
-ตัวอย่างการเพิ่มคำศัพท์จากตัวเราโดยมีหลักในการเพิ่มดังนี้
1.ให้นึกจากร่างกายโดยเริ่มตั้งแต่บนมาหาล่าง เช่น:-
-ร่างกาย คำศัพท์ก็คือ body (บอดี้)
-ผม ,, ,, hair (แฮร์)
-ศีรษะ ,, ,, head (เฮด)
-ใบหน้า ,, ,, face (เฟค)
-หู ,, ,, ear (เอีย)
-คิ้ว ,, ,, eyebrow (อายโบร)
-ตา ,, ,, eye (อาย)
-จมูก ,, ,, nose (โนส)
-ริมฝีปาก ,, ,, labia (เลเบีย)
-ปาก ,, ,, mouth (เมาธ์)
-แก้ม ,, ,, cheek (ชีค)
-คาง ,, ,, chin (ชิน)
-คอ ,, ,, neck (เนคค์)
-ไหล่ ,, ,, shoulder (โซนเดอะ)
-แขน ,, ,, arm (อาร์ม)
-มือ ,, ,, hand (แฮนดฺ)
-ฝ่ามือ ,, ,, palm (พาล์ม)
-นิ้วมือ ,, ,, finger (ฟินเกอร์)
-ขา ,, ,, leg (เลก)
-หัวเข่า ,, ,, knee (นี)
-แข้ง ,, ,, shin (ชิน)
-เท้า ,, ,, foot (ฟูท)
-นิ้วเท้า ,, ,, toe (โท)
-ฝ่าเท้า ,, ,, foot sole (ฟูท โซล)
อย่าลืมจงสังเกตดูการเขียนของคำศัพท์เหล่านี้ด้วยเวลาเขียนจดหมายหรือเรียงความจะได้ไม่เขียนผิด
การเพิ่มคำศัพท์จากสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเรา
การเพิ่มคำศัพท์จากสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเรา มีหลักในการเพิ่มดังนี้ให้นึกถึงสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเราที่สุดก่อนแล้วจึงห่างออกไปเรื่อยๆ เช่นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวที่สุดคือ:-
-เสื้อผ้า ภาษาอังกฤษคือ clothes (คลอธสฺ)
-เสื้อ ,, ,, shirts (เชิร์ทซฺ)
-กางเกง ,, ,, pants (แพนท์ซฺ)
-กระโปร่ง ,, ,, skirt (สเคิร์ท)
-เนคไท ,, ,, necktie (เนคไท) ผ้าพันคอ
-ถุงมือ ,, ,, glove (กลอฟว์)
-สร้อยคอ ,, ,, necklace (เนคเลซ)
-แหวน ,, ,, ring (ริง)
-ถุงเท้า ,, ,, socks (ซอคซฺ)
-นาฬิกาข้อมือ ,, ,, watch (วอทชฺ)
-นาฬิกาแขวน ,, ,, clock (คลอค)
-โทรศัพท์มือถือ ,, ,, cellphone, mobile เซลโฟน,โมบาย
-โทรศัพท์บ้าน ,, ,, home phone (โฮม โฟน)
-โน๊ตบุ๊ค ,, ,, notebook (โน๊ทบุค)
-คอมพิวเตอร์ ,, ,, computer (คอมพิวเตอร์)
-โทรทัศน์ ,, ,, TV, television (ทีวี,เทลลิวิซั่น)
-วิทยุ ,, ,, radio (เรดิโอ)
-โต๊ะ ,, ,, table, desk (เทเบิล,เดสคฺ)
-เตียง ,, ,, bed (เบด)
-ตู้ ,, ,, cabinet (แคบิเนท)
นี้คือตัวอย่างที่นำมาแสดงให้ดูเท่านั้น และยังมีอีกเป็นจำนวนมากขอให้ผู้ศึกษานึกขึ้นมาลองดูเมื่อได้คำที่เป็นภาษาไทยแล้ว ต่อไปให้ค้นหาคำศัพท์ที่เป็นภาษาอังกฤษเราก็จะได้คำศัพท์เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ
5.การนึกหาคำศัพท์ที่อยู่ไกลตัวให้นึกหาคำที่เป็นภาษาไทยก่อนและจึงค้นหาคำที่เป็นภาษาอังกฤษของมัน เช่น:-
-ท้องฟ้า ภาษาอังกฤษคือ sky (สะไค)
-อากาศ ,, ,, air (แอร์)
-เมฆ ,, ,, clouds (เคลาดซฺ)
-หมอก ,, ,, fog (ฟอก)
-ลมและลมพายุ ,, ,, storm, gale (สทรอม,เกล)
-ดวงอาทิตย์ ,, ,, sun (ซัน)
-ดวงจันทร์ ,, ,, moon (มูน)
-ดวงดาว ,, ,, star (สะทาร์)
-นก ,, ,, birds (เบิร์ดซฺ)
-เครื่องบิน ,, ,, plane (แพลน)
-สนามบิน ,, ,, airport (แอร์พอร์ท)
-ท่าอากาศยาน ,, ,, airport
-ถนน ,, ,, road (โรด)
-รถยนต์ ,, ,, car (คาร์)
-รถจักรยาน ,, ,, bicycle (ไบซิเคิล)
-รถจักรยานยนต์, รถมอเตอร์ไซต์ motorcycle (มอเทอะไซเคิล)
6.ใช้วิธีเปรียบเทียบคำศัพท์แล้วจงสังเกตดูข้อแตกต่างของมัน เช่น:-
-mouth (เมาธ์) แปลว่า "ปาก"
-mouse (เมาซฺ) แปลว่า "หนู"
-mountain (เมาเทน) แปลว่า "ภูเขา"
-house (เฮาซฺ) แปลว่า "บ้าน"
-household (เฮาซฺ'โฮลดฺ) แปลว่า " สมาชิกในครอบครัว,ครัวเรือน"
-cousin (เคาซิน) แปลว่า "ลูกพี่ลูกน้อง"
-hour (เอาเออร์) แปลว่า "ชั่วโมง"
คำสํพท์ทั้ง 7 คำเหล่านี้เกิดขึ้นจากสระสองตัวคือ ou
-our เป็นคำสรรพนาม บุรุษที่ 2 เอาไปเขียนให้เกิดคำศัพท์ขึ้นมาใหม่อีกดังนี้
-hour (เอาเออ) แปลว่า "ชั่วโมง"
-four (โฟร์) แปลว่า "4"
-tour (ทัวร์) แปลว่า "การท่องเที่ยว"
-course (คลอร์ส) แปลว่า "หลักสูตร"
-your (ยัวร์) แปลว่า "ของคุณ"
นี้คือวิธีเพิ่มคำศัพท์ขึ้นมาใหม่โดยการนำเอาคำศัพท์คำเดียวเขียนขึ้นมาได้อีกหลายคำขอให้ผู้ศึกษาทั้งหลายโปรดสังเกตดูให้ดีตามวิธีที่ข้าพเจ้าแสดงให้ดูนี้ เมื่อท่านทำได้ดังนี้คำศัพท์ใหม่ๆก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆโดยไม่ต้องท่องจำ
7.ให้อ่านคำศัพท์ในเว็บไซต์วันละ 2 ครั้งอ่านไปสังเกตไปอ่านช้าๆอย่าไปเร็ว ถ้าคำไหนจำยากก็อ่านดูหลายๆเที่ยว จงเปิดเว็บไซต์ข้างล่างนี้ขึ้นมาอ่านและฟังสำเนียงการออกเสียงไปด้วย ให้เปิดขึ้นมาอ่านดูทุกวันอย่าได้ขาดคำศัพท์จะได้ซึมซับเข้าไปในสมองของท่านเอง
http://cambridgedict.blogspot.com/2012/01/2000.html
https://www.tonamorn.com/vocabulary/%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A4%E0%B8%A9%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8
คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย
เรียนภาษาอังกฤษจาก Youtube
คำศัพท์จาก Youtube
https://www.youtube.com/watch?v=NMZVfaW-dTc
https://www.youtube.com/results?search_query=%E0%B8%84%E0%B9%8D%E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0%B8%B1%E0%B8%9E%E0%B8%97%E0%B9%8C%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A4%E0%B8%A9+%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%86
เคล็ดลับการจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษ
http://www.top-atutor.com/15287999/6-%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%A8%E0%B8%B1%E0%B8%9E%E0%B8%97
วิธีจำคำศัพท์ที่ดีที่สุด
http://www.thairath.co.th/content/324151
จำแบบไม่ลืม
https://www.youtube.com/watch?v=FK73MnfvQPU
วิธีจำคำศัพท์แบบครูโบว์
https://www.youtube.com/watch?v=rU-X9SEqda0ศัพท์ภา
No comments:
Post a Comment